ปักกิ่ง--13 ธันวาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
การประชุมสุดยอดจีน-รัฐอาหรับ ครั้งแรก ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และผู้นำรัฐอาหรับกว่า 10 ท่านได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีเพื่อยกระดับความสัมพันธ์จีน-อาหรับให้สูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพจีน-อาหรับ เพื่อกระชับความร่วมมือในอนาคต และเพื่อส่งเสริมประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น
สานต่อมิตรภาพจีน-อาหรับ
นายสี จิ้นผิง กล่าวถึงจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพจีน-อาหรับที่ประกอบด้วย "ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน การไม่แบ่งแยกและการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน" โดยกล่าวว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นลักษณะเฉพาะของมิตรภาพจีน-อาหรับ พร้อมเสริมว่าจีนและประเทศอาหรับไว้วางใจซึ่งกันและกัน และได้สร้างมิตรภาพฉันพี่น้องให้เกิดขึ้น
จีนและรัฐอาหรับมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการแลกเปลี่ยนฉันมิตร โดยทั้งสองฝ่ายได้รู้จักและเป็นเพื่อนกันผ่านเส้นทางสายไหมโบราณ รวมถึงแบ่งปันสุขทุกข์ร่วมกันในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประเทศ นอกจากนั้นยังสร้างความร่วมมือแบบเอื้อประโยชน์ทั้งสองฝ่ายท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ และยึดมั่นในความยุติธรรมและความเท่าเทียมภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป นายสี จิ้นผิง กล่าว พร้อมเสริมว่าสิ่งเหล่านี้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพจีน-อาหรับ
ผู้นำจีนกล่าวว่า ความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันเป็นกลไกขับเคลื่อนมิตรภาพของทั้งสองฝ่ายมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวว่าจีนและรัฐอาหรับเป็นตัวอย่างของความร่วมมือใต้-ใต้ (South-South Cooperation) ในการแสวงหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า การไม่แบ่งแยกและการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเป็นค่านิยมสำคัญที่แฝงอยู่ในมิตรภาพของทั้งสองฝ่าย พร้อมเน้นย้ำว่าจีนและรัฐอาหรับยังคงเรียนรู้ภูมิปัญญาจากอารยธรรมอันเก่าแก่ของกันและกัน และร่วมกันส่งเสริม "สันติภาพ ความปรองดอง ความสมบูรณ์ และความจริง" ซึ่งเป็นสาระสำคัญของอารยธรรม
แสวงหาการพัฒนาร่วมกัน
ในช่วงหลายปีมานี้ จีนและโลกอาหรับได้แสวงหาการพัฒนาที่มีประสิทธิผลร่วมกัน ผ่านความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในหลากหลายด้าน
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและรัฐอาหรับควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย พร้อมย้ำว่าควรส่งเสริมการประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมความร่วมมือคุณภาพสูงภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI)
ทั้งสองฝ่ายได้จัดตั้งกลไกความร่วมมือ 17 กลไกภายใต้กรอบการประชุมความร่วมมือจีน-รัฐอาหรับ โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การค้าระหว่างสองฝ่ายเติบโตขึ้น 1 แสนล้านดอลลาร์ และมีมูลค่ารวมมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการลงทุนโดยตรงของจีนในรัฐอาหรับเพิ่มขึ้นราว 2.6 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการดำเนินโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกว่า 200 โครงการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเกือบ 2 พันล้านคนของทั้งสองฝ่าย
"เรายินดีที่ได้เห็นการตัดสินใจของที่ประชุมในการสร้างประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่ และมีการกำหนดโครงร่างของแผนความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีนกับรัฐอาหรับ ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวสำหรับอนาคตของความสัมพันธ์จีน-อาหรับ" นายสี จิ้นผิง กล่าว
ส่งเสริมประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น
ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จีนและรัฐอาหรับควรสานต่อจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพจีน-อาหรับ รวมถึงเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือ และส่งเสริมประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อมอบประโยชน์มากขึ้นแก่ประชาชนของทั้งสองฝ่าย และเพื่อความก้าวหน้าของมนุษย์ ประธานาธิบดีจีนกล่าว
จีนและรัฐอาหรับควรอยู่อย่างเป็นอิสระและปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน ผู้นำจีนกล่าว และเสริมว่าจีนสนับสนุนรัฐอาหรับในการสำรวจเส้นทางการพัฒนาที่เป็นอิสระและเหมาะสมกับประเทศ พร้อมกุมอนาคตเอาไว้ในมือของตัวเอง
จีนพร้อมที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจเชิงกลยุทธ์ร่วมกันกับรัฐอาหรับ และสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และเกียรติของชาติ นายสี จิ้นผิง กล่าว และย้ำว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันรักษาหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ยึดมั่นในระบบพหุภาคีที่แท้จริง รวมถึงปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบรรดาประเทศกำลังพัฒนา
ในปี 2557 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอให้สร้างประชาคมจีน-อาหรับที่มีผลประโยชน์ร่วมกันและประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมกัน ในการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ภายใต้การประชุมความร่วมมือจีน-รัฐอาหรับ และข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากประเทศอาหรับ