ปักกิ่ง, 15 ธ.ค. 2565 /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
บริษัทโฟตอน (FOTON) ลงนามทำข้อตกลงกับหุ้นส่วนในยุโรปเพื่อพัฒนายานพาหนะขนส่งสินค้าพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 โดยข้อตกลงนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือที่เริ่มมีมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมโซลูชันสำหรับตลาดยานพาหนะขนส่งสินค้าพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ตลอดหลายเดือนต่อจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะจัดทำเอกสารทางเทคนิคและสัญญาสำหรับโครงการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2566
ข้อตกลงฉบับใหม่นี้จะเสริมความร่วมมือของทั้งสองเครือที่มีมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อพัฒนาและผลิตยานพาหนะขนส่งสินค้าขนาดเล็กรุ่นใหม่สำหรับตลาดยุโรปผ่านแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์มินิทรัคของโฟตอน หลังจากพัฒนาร่วมกันมากว่า 2 ปี รถบรรทุกขับในเมืองรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นโดยทั้ง 2 ฝ่ายในชื่อ NP6 ก็เปิดตัวในยุโรปเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 โดยเป็นไปตามมาตรฐานยุโรปทุกประการ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง โฟตอนจัดแสดงรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดยุโรปโดยเฉพาะ ในงานกรีน โลจิสติกส์ เอ็กซ์โป 2022 (Green Logistics Expo 2022) ในเมืองปาโดวา ประเทศอิตาลี ซึ่งส่งสัญญาณว่าโฟตอนเข้าสู่ตลาดพลังงานใหม่ในยุโรปแล้ว
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา โฟตอนมาเยือนยุโรปโดยเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 100% 2 รุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อตลาดยุโรปโดยเฉพาะ ในงานนิทรรศการ IFAT ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี นับแต่นั้นมา โฟตอนก็ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดพลังงานใหม่ในยุโรป
เป็นที่ทราบกันดีว่าสหภาพยุโรป (EU) จะแบนรถยนต์ใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ปี 2578 เป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่าตลาดยานพาหนะพลังงานใหม่ในยุโรปจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โฟตอนได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ คุณภาพผลิตภัณฑ์ และห่วงโซ่อุปทานเรียบร้อยแล้ว โดย WVTA ซึ่งเป็นเหมือนบัตรผ่านเข้าสู่ตลาดยุโรปนั้น มีชื่อเสียงในระดับสากลว่าเป็นระบบการรับรองทรงคุณค่าที่สุดในโลกและได้รับการยอมรับทั่ว EU จนทำให้รถที่ผ่านมาตรฐาน WVTA ไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบอะไรเพิ่มอีก ผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ของโฟตอน รวมถึงรถบัส, รถตู้ และรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 100% ล้วนผ่านการรับรองจาก WVTA และมีการใช้งานในประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์
เป็นที่เข้าใจกันว่าโฟตอนกำลังค่อย ๆ ยกระดับการดำเนินงาน การขาย และเครือข่ายบริการของตนในยุโรป โฟตอนจะมุ่งเจาะตลาดยุโรป อาทิ อิตาลี, โปแลนด์ และเยอรมนีตลอดหลายปีหลังจากนี้ และจะทยอยจับตลาดพลังงานใหม่ในยุโรปด้วยการสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมในตลาดระดับไฮเอนด์