เคลย์ เดอ โป โบเต้ ประกาศชื่อผู้ชนะรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" ครั้งที่ 5

เชิดชูผู้ที่ช่วยมอบพลังและยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กหญิงและสตรีผ่านสะเต็มศึกษา (STEM Education)

โตเกียว--8 มีนาคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

เคลย์ เดอ โป โบเต้ (Clé de Peau Beauté) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสุดหรูระดับโลก มีความภาคภูมิใจที่จะประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" (Power of Radiance Awards) ครั้งที่ 5 ประจำปี 2566 ได้แก่ คุณด๋าว ถิ ห่ง เกวี๋ยน (Ms. Dao Thi Hong Quyen) จากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ ภารกิจการกุศลระยะยาวของแบรนด์เคลย์ เดอ โป โบเต้ ประกอบด้วยการมอบรางวัลประจำปี "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" รวมถึงการเป็นพันธมิตรระยะเวลาหลายปีกับองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสะเต็มศึกษา (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) รวมถึงโครงการมอบพลังและสร้างงานให้แก่เด็กหญิงและสตรีทั่วโลก เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม

โซลูชันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาใหญ่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยากจน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรมองข้ามศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของประชากรครึ่งหนึ่งของโลกนั่นคือเด็กหญิงและสตรี อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพื้นที่ด้อยโอกาสยังคงไม่สามารถเข้าถึงสะเต็มศึกษา ในขณะที่ทักษะด้านไอซีที (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) เป็นที่ต้องการมากขึ้น ความไม่เสมอภาคทางเพศจึงทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากผู้หญิงที่ทำงานในวงการนี้มีน้อยมาก

คุณเกวี๋ยนเป็นครูสอนวิชาชีววิทยาที่ทุ่มเททำงานเพื่ออุดช่องว่างด้านสะเต็มศึกษาและทำลายอคติทางเพศในชุมชนของเธอ ในเวียดนามนั้น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาพบมากในจังหวัดที่ยากจนที่สุด [1] ซึ่งมีจำนวนเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ เด็กพิการ และเด็กหญิงมากกว่าจังหวัดอื่น ยิ่งไปกว่านั้น สะเต็มศึกษามักเน้นไปที่เด็กชายเป็นส่วนใหญ่ [2] ทำให้เด็กหญิงถูกปิดกั้นจากการทำงานในวงการนี้ [3] ในปี 2562 จำนวนเด็กหญิงที่สอบเข้าชั้นมัธยมปลายมีเพียง 10.5% ในจังหวัดหล่าวกายบนภูเขาอันห่างไกลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชนกลุ่มน้อยอยู่หนาแน่น [4] นอกจากนี้ สถานการณ์โรคระบาดยังทำให้วิกฤตการศึกษาที่ย่ำแย่อยู่แล้วในเวียดนามเลวร้ายลงไปอีก [5]

คุณเกวี๋ยนมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ด้วยการส่งเสริมสะเต็มศึกษาสำหรับเด็กหญิงและเด็กกลุ่มชายขอบในเวียดนาม โดยเปิดโอกาสให้เข้ามามีส่วนร่วมในสาขาที่สำคัญเหล่านี้ ในฐานะหัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนเจเนซิส (Genesis School) คุณเกวี๋ยนได้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสะเต็มศึกษามาตลอดระยะเวลา 8 ปี และในฐานะผู้ก่อตั้งโครงการ "สะเต็มศึกษาเพื่อชนบท" (STEM for Rural Area) ในปี 2561 คุณเกวี๋ยนได้สนับสนุนโรงเรียนมากกว่า 10 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเด็กหญิงกว่า 1,200 คน นอกจากนี้ ในฐานะทูตของโครงการเด็กหญิงในสะเต็มศึกษา (Girl in STEM) ของบริติช เคานซิล (British Council) เธอได้ทำโครงการในโรงเรียนมัธยมปลาย เล ห่ง ฟอง (Le Hong Phong High School) ทำให้นักเรียนหญิงมีส่วนร่วมในกิจกรรมสะเต็มศึกษาเพิ่มขึ้นถึง 70% ขณะเดียวกัน ในช่วงโควิด-19 เธอได้จัดสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาสำหรับครูรวม 28 ครั้ง โดยมีเนื้อหาใหม่เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาและการพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม (Soft Skills) รวมถึงทักษะการให้คำปรึกษาสำหรับครูกว่า 84,000 คนในเวียดนาม

"ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เคลย์ เดอ โป โบเต้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนบุคคลที่มีความโดดเด่นเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการศึกษาและการมอบพลัง คุณเกวี๋ยนให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กนักเรียนกลุ่มเปราะบางอย่างแน่วแน่มาโดยตลอด แรงผลักดันและความสำเร็จในชุมชนของเธอสะท้อนถึงจิตวิญญาณความปรารถนาของเราที่จะพลิกโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและเชิงรุกได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด" คุณมิซูกิ ฮาชิโมโตะ (Ms. Mizuki Hashimoto) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของเคลย์ เดอ โป โบเต้ กล่าว "เราเชื่อมั่นในอนาคตอันสดใส และเราหวังว่ารางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" จะช่วยสร้างโลกที่สดใสยิ่งขึ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นลงมือทำเช่นกัน"

"ดิฉันต้องการทำลายอคติทางเพศในเวียดนามด้วยการเปลี่ยนกรอบความคิดของสังคมที่มีต่อเด็กหญิงโดยอาศัยแนวทางที่เท่าเทียมกันมากขึ้น และให้ความมั่นใจแก่เด็กหญิงในการเลือกเรียนสะเต็มศึกษา เพื่อช่วยให้เด็กหญิงสามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาใช้และไม่ยอมจำนนต่อข้อจำกัดต่าง ๆ การได้รับรางวัลนี้จะช่วยให้ดิฉันทำประโยชน์ได้มากขึ้นและสามารถเดินหน้าส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศผ่านโครงการสะเต็มศึกษาในเวียดนาม" คุณเกวี๋ยนกล่าว

ในฐานะผู้ชนะรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" ประจำปี 2566 คุณเกวี๋ยนจะได้รับเงินรางวัลเพื่อนำไปสนับสนุนสะเต็มศึกษาสำหรับเด็กหญิงกลุ่มเปราะบางในสามส่วน ได้แก่ สะเต็มศึกษาสำหรับเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ สะเต็มศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนผู้พิการ และกิจกรรมการสื่อสารเกี่ยวกับสะเต็มศึกษา

คุณเกวี๋ยนเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" ซึ่งยังคงสร้างแรงบันดาลใจผ่านการทุ่มเททำงานเพื่อเด็กหญิงทั่วโลก สำหรับผู้ชนะรางวัลก่อนหน้านี้ประกอบด้วย คุณมูซูน อัลเมลเลฮาน (Muzoon Almellehan) ผู้สนับสนุนการศึกษาชาวซีเรียและทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟ, คุณบินิตา ชเรสธา (Binita Shrestha) และคุณปราติกชา ปันเดย์ (Pratiksha Pandey) ผู้ร่วมก่อตั้ง วีสะเต็ม เนปาล (WiSTEM Nepal), คุณอัลโยนา ทัคเชนโก (Alyona Tkachenko) ผู้สนับสนุนสะเต็มศึกษาในคาซัคสถาน และคุณอแมนดา ซีมันด์จุนตัก (Amanda Simandjuntak) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง มาร์โคดิง อินโดนีเซีย (MARKODING Indonesia) ทั้งนี้ ทุกคนมีพลังในการปลดปล่อยความเปล่งประกายจากภายในเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างแท้จริง และรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" แสดงให้เห็นว่าเคลย์ เดอ โป โบเต้ ยืนหยัดเคียงข้างเด็กหญิงและสตรีทั่วโลกในขณะที่พวกเธอเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน 

การเดินทางของเคลย์ เดอ โป โบเต้ ในฐานะผู้สนับสนุนการศึกษานั้น เริ่มต้นด้วยความฝันในการสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ ทางแบรนด์จึงเลือกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุด นั่นคือ เดอะ เซรั่ม (The Serum) และแบ่งยอดขายเพื่อนำมาสนับสนุนภารกิจนี้ โดยรางวัล "พาวเวอร์ ออฟ เรเดียนซ์" ก็ได้รับทุนสนับสนุนจากหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของยอดขายเดอะ เซรั่ม ทั่วโลก

ทั้งนี้ ยูนิเซฟไม่ได้รับรองบริษัท แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ

เกี่ยวกับคุณด๋าว ถิ ห่ง เกวี๋ยน

คุณด๋าว ถิ ห่ง เกวี๋ยน (Ms. Dao Thi Hong Quyen) เป็นหัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนเจเนซิส (Genesis School) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่บุกเบิกการศึกษาสีเขียว (Green Education) ในเวียดนาม โดยรับผิดชอบเรื่องการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ คุณเกวี๋ยนเกิดและเติบโตในหมู่บ้านยากจน และได้รับแรงบันดาลใจจากบิดาผู้ล่วงลับซึ่งมุ่งมั่นส่งเสริมการศึกษาในหมู่บ้านของเธอมานานกว่า 10 ปี คุณเกวี๋ยนพยายามส่งเสริมการศึกษาและสนับสนุนเด็กหญิงด้วยการอุดช่องว่างทางเพศในแวดวงสเต็มศึกษาและทำลายอคติทางเพศ ในปี 2561 คุณเกวี๋ยนริเริ่มโครงการ "สะเต็มศึกษาเพื่อชนบท" (STEM for Rural Area) ซึ่งสนับสนุนโรงเรียนมากกว่า 10 แห่ง และนักเรียนกว่า 2,000 คน ต่อมาในปี 2562 คุณเกวี๋ยนได้รับรางวัลจากการส่งโครงการเข้าร่วมการแข่งขัน "SL – STEM of SL – STEM (STEAM)" ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม คุณเกวี๋ยนยังเป็นทูตของโครงการเด็กหญิงในสะเต็มศึกษา (Girl in STEM) ของบริติช เคานซิล (British Council) อีกด้วย นอกจากนี้ นับตั้งแต่ปี 2564 ด้วยทุนจากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา คุณเกวี๋ยนได้ขยายสะเต็มศึกษาและการฝึกอาชีพไปทั่วประเทศ ในช่วงโควิด-19 เธอได้จัดสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาสำหรับครูรวม 28 ครั้ง โดยมีเนื้อหาใหม่เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาและการพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม (Soft Skills) รวมถึงทักษะการให้คำปรึกษาสำหรับครูกว่า 84,000 คนในเวียดนาม และล่าสุดในปี 2565 คุณเกวี๋ยนได้รับเลือกให้เข้าร่วมในโครงการฝึกอบรมพัฒนาวิชาชีพครูฟุลไบรท์ (Fulbright Teaching Program)

เกี่ยวกับเคลย์ เดอ โป โบเต้

เคลย์ เดอ โป โบเต้ (Clé de Peau Beauté) แบรนด์หรูระดับโลกจากชิเซโด้ (Shiseido Co Ltd) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 เพื่อแสดงถึงความสง่างามและวิทยาศาสตร์อันเหนือชั้น เคลย์ เดอ โป โบเต้ แปลว่ากุญแจสู่ผิวสวย หลักปรัชญาของแบรนด์คือการปลดล็อกพลังความเปล่งประกายของผู้หญิงด้วยเทคโนโลยีเครื่องสำอางและสกินแคร์คุณภาพจากทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของเคลย์ เดอ โป โบเต้ ยึดมั่นในสัมผัสแห่งสุนทรียศาสตร์และอัจฉริยภาพเป็นสำคัญ จึงอัดแน่นไปด้วยความทันสมัย เสน่ห์เย้ายวน และแรงผลักดันที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในการมอบความสว่างกระจ่างใสจากภายใน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ เคลย์ เดอ โป โบเต้ วางจำหน่ายใน 23 ประเทศและดินแดนทั่วโลก

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเคลย์ เดอ โป โบเต้: https://www.cledepeau-beaute.com/int/powerofradiance-2023.html 

อินสตาแกรมของเคลย์ เดอ โป โบเต้: https://www.instagram.com/cledepeaubeaute/ 

ที่มา:

[1] Source: Worldbank, 2022. https://blogs.worldbank.org/eastasiapacific/reducing-gaps-education-remains-important-vietnam-new-school-year-kicks   

[2] https://vietnamnet.vn/en/stem-education-experiencing-growing-pains-in-vietnam-E175882.html  

[3] Source: Worldbank, 2022. https://blogs.worldbank.org/eastasiapacific/reducing-gaps-education-remains-important-vietnam-new-school-year-kicks

[4] Prof. Ian Coxhead, 2019 Educational progression from 9th grade to 10^th grade among Vietnamese children: interim findings from test score data. 

[5] UNICEF, 2021 https://www.unicef.org/eap/media/9346/file/Sit%20An%20-%20Viet%20Nam%20case%20study.pdf