ซูโจว จีน, 28 มีนาคม 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
จีซีแอล ซิสเต็ม อินทิเกรชัน เทคโนโลยี (GCL System Integration Technology Co., Ltd.) ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "จีซีแอล เอสไอ" (GCL SI) หรือ "บริษัทฯ" (หมายเลขจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น:002506) บริษัทเซลล์แสงอาทิตย์ (PV) ชั้นนำในประเทศจีน ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ล่าสุดอย่างโมดูลท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ (N-type TOPCon) และบีไอพีวี (BIPV) หรือจีซีแอล เอสพีวี (GCL SPV) โดยเปิดตัวครั้งแรกที่งานมหกรรมพลังแสงอาทิตย์ (PV EXPO) ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นงานแสดงอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการโตเกียวบิ๊กไซต์ (Tokyo Big Sight) ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 17 มีนาคม โดยที่บูธของจีซีแอล เอสไอ ได้มีการแนะนำผู้เข้าชมจากทั่วโลกเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผสานรวมกับเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่ล้ำสมัย ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์และช่วยผลักดันญี่ปุ่นไปสู่เป้าหมายในการลดก๊าซคาร์บอน
โทมัส จาง (Thomas Zhang) ประธานของจีซีแอล เอสไอ กล่าวว่า "จีซีแอล เอสไอ มีความภาคภูมิใจที่เป็นผู้ริเริ่มชั้นนำในด้านพลังงานหมุนเวียน ผลักดันขอบเขตของอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องด้วยโซลูชันหลากหลายที่ล้ำสมัยของเรา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราได้มีโอกาสจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่งานพีวี เอ็กซ์โป ซึ่งทำให้มีโอกาสแนะนำความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีของเราให้เป็นที่รู้จัก เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของการแพร่ระบาด เราตื่นเต้นที่จะได้กลับมาที่ห้องจัดนิทรรศการของงานแสดงสินค้าชั้นนำของเอเชียด้านพลังงานแสงอาทิตย์อีกครั้ง และเชื่อมต่อกับเพื่อนในวงการทั้งเก่าและใหม่ โดยในครั้งนี้ เราตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเรา ได้แก่ โมดูลท็อปคอนและบีไอพีวี (จีซีแอล เอสพีวี) ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่ยั่งยืนไปสู่อนาคต"
โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ท็อปคอน
ในขณะที่อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์กำลังตอบรับข้อดีของโมดูลชนิดเอ็นไทป์ จีซีแอล เอสไอ ได้เพิ่มความพยายามในการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดกำลังพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว โมดูลท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ของจีซีแอล เอสไอ มีประสิทธิภาพการแปลงที่ยอดเยี่ยมกว่า 22.5% เป็นโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์สองหน้าแบบโมโนคริสตัลไลน์ ซึ่งออกแบบมาให้มีความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ในขณะที่ลดการเสื่อมสภาพ (LID) และลดการเสื่อมประสิทธิภาพ (LeTID) ของแผงโซลาร์เซลล์
ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเผยแผนงานสำหรับฐานการผลิตในประเทศจีน ที่มุ่งผลิตเซลล์แสงอาทิตย์โมดูลท็อปคอนประสิทธิภาพสูงขนาด 20GW ซึ่งจะมาพร้อมกับอุปกรณ์การผลิตอัตโนมัติชั้นยอด ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกดิจิทัลอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการวิจัยและพัฒนาและการผลิตของจีซีแอล เอสไอ ในการพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูง
จีซีแอล เอสไอ ที่พร้อมด้วยฐานการผลิตใหม่ ยังได้กำหนดแผนกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและแผนการผลิตจำนวนมากสำหรับโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ ที่มีทั้งความคุ้มค่ากับเงินลงทุนและมีประสิทธิภาพสูง ฐานการผลิตดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของจีซีแอล เอสไอ ซึ่งตั้งเป้าที่จะเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ผนึกกำลังกันในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกระบวนการผู้ผลิต และตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นล่าสุด
โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์บีไอพีวี
ผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์แบบผสานเข้ากับตัวอาคาร (บีไอพีวี) ถือเป็นโซลูชันคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ซึ่งก่อให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน สถาปนิกต่างก็เริ่มให้ความสนใจกับบีไอพีวีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้ ในขณะเดียวกันก็มอบความสวยงามที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ และเสริมสไตล์สถาปัตยกรรม ทั้งนี้ ในงานเอ็กซ์โป จีซีแอล เอสไอ ได้จัดแสดงโมดูลบีไอพีวี ซึ่งเป็นโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์แบบสองหน้าที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยืนยาว ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
โมดูลบีไอพีวีมาพร้อมกับการรับประกันผลิตภัณฑ์ 12 ปี การรับประกันการผลิตกำลังไฟคงที่ในช่วงเวลา 25-30 ปี และได้รับการจัดอันดับระดับ A ในการทดสอบสภาพไม่ติดไฟของส่วนประกอบทนไฟในวัสดุที่ใช้สร้างอาคาร นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติป้องกันอุณหภูมิเกินและกันน้ำได้ดีเยี่ยม จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพอากาศ โครงสร้างที่เรียบง่ายของระบบช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วน ด้วยฟังก์ชันการทำความสะอาดอัตโนมัติที่ช่วยลดการบำรุงรักษาสำหรับผู้ใช้งาน
คุณโทมัส จาง กล่าวว่า "การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทั้งสองโมดูลนี้ช่วยเพิ่มแรงผลักดันใหม่ให้กับนวัตกรรมของบริษัท ในขณะที่เราแสวงหาโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้โลกบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยในอนาคต เราจะเสริมสร้างศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาของเราอย่างต่อเนื่อง ขยายตลาดสู่ระดับสากล เพื่อให้ผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงระดับพรีเมียมเข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น"
