ปักกิ่ง--15 พฤษภาคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เนื่องในวันแม่สากล ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมของทุกปี ผู้คนทั่วโลกพร้อมใจกันแสดงความรักและความขอบคุณต่อแม่ผู้ให้ชีวิต ความรัก และความห่วงใยเสมอมา
ครอบครัวคือห้องเรียนแรกของทุกคน และพ่อแม่คือครูคนแรกของลูก
นางฉี ซิน มารดาของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้อบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่ลูก ๆ ด้วยความรักและความเมตตาอย่างสุดหัวใจ
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากคำพูดและการกระทำของมารดา เขาจดจำคำแนะนำสั่งสอนของแม่เสมอ และไม่เคยลืมจุดเริ่มต้นของตนเอง
พ่อแม่คือครูคนแรกของลูก
ในปี พ.ศ. 2482 นางฉีในวัย 15 ปี ได้เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน จากนั้นได้กลายเป็นผู้สนับสนุนค่านิยมและความเชื่อของพรรคด้วยความภักดี เธอคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมและยืนยันที่จะทำงานในระดับรากหญ้า ส่งผลให้เธอเต็มใจทำงานอย่างหนักในหลายตำแหน่ง
"ทำงานให้ดี เรียนให้ดี และรับมือทุกอย่างให้ดี" คือคำพูดที่สามีสอนเธอและเธอก็ยึดถือมาโดยตลอด คำพูดและการกระทำของเธอเป็นแบบอย่างให้กับลูก ๆ ในเวลาต่อมา
นางฉีใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว ไม่ว่าจะประสบกับความยากลำบากมากเพียงใดในการดูแลครอบครัวพร้อมกับทำงาน แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อต่อหน้าที่ ซึ่งวิถีชีวิตของเธอและบรรยากาศภายในครอบครัวได้หล่อหลอมค่านิยมในตัวประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำหลายครั้งถึงความสำคัญของครอบครัว การศึกษาของครอบครัว และคุณธรรม
ในการประชุมครอบครัวต้นแบบแห่งชาติ (National Conference of Model Families) ครั้งแรกเมื่อปี 2559 นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า พ่อแม่ควรสั่งสอนลูกด้วยคำพูดและการกระทำ ส่งเสริมความรู้คู่คุณธรรม และปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองสอนลูกด้วย "พ่อแม่ควรช่วยลูก ๆ ติดกระดุมเม็ดแรกในชีวิต และสนับสนุนก้าวแรกบนบันไดแห่งชีวิต"
ในช่วงวัยรุ่น นายสี จิ้นผิง ได้รับอุปกรณ์เย็บผ้าธรรมดา ๆ จากแม่ของเขา ซึ่งเป็นของขวัญที่ทำให้เขามีความกล้าหาญที่จะฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากและสร้าง "ก้าวแรกของชีวิต"
บนกระเป๋าใส่อุปกรณ์เย็บผ้านั้น นางฉีได้ใช้ด้ายสีแดงปักคำว่า "ดวงใจของแม่" เอาไว้
"ทำหน้าที่ของลูกให้ดีนับเป็นความกตัญญูสูงสุด"
นายสี จิ้นผิง เป็นลูกชายกตัญญู เขาพยายามใช้เวลากับแม่เสมอทุกครั้งที่เป็นไปได้ แม้จะมีตารางงานแน่นแค่ไหน เขาก็จะหาเวลาไปเดินเล่นกับแม่เสมอ
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2544 นายสี จิ้นผิง ไม่สามารถกลับไปหาบิดามารดาได้เพราะติดภารกิจ นางฉีได้โทรหาบุตรชายเพื่อบอกว่า ตราบใดที่เขาทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ ก็นับว่าเขาได้แสดงความกตัญญูสูงสุดต่อพ่อแม่แล้ว
"ลูกเอ๋ย แม่มีคำพูดเป็นร้อยเป็นพันคำที่อยากบอก แต่แม่ขอพูดประโยคเดียว แม่ขอให้ลูกรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี แม้จะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม" นางฉีบอกกับบุตรชายทางโทรศัพท์
คำพูดให้กำลังใจของมารดาเป็นแรงบันดาลใจให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้ประชาชน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกครอบครัวชาวจีนมีชีวิตที่ดี
เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ความปรารถนาของนายสี จิ้นผิง คือ "ให้ประชาชนได้กินอิ่มหนำสำราญ" ต่อมาเมื่อเขาอายุ 60 ปี เขาได้แนะนำตัวเองว่าเป็น "ผู้รับใช้ประชาชน" เมื่อครั้งไปเยี่ยมชาวบ้านที่หมู่บ้านซื่อปาตงของชนเผ่าเหมียว ซึ่งอยู่ในมณฑทลหูหนานทางภาคกลางของจีน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 14 ครั้งที่ 1 ว่า ความไว้วางใจของประชาชนคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผลักดันให้เขาเดินหน้าต่อไป และเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่เขาแบกรับไว้