ปักกิ่ง, 8 มิถุนายน 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
จีนได้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อบรรลุผลสำเร็จในภารกิจทางประวัติศาสตร์ระยะยาวของ "โครงการผืนป่าแนวกันลมสามเหนือ" (Three-North Shelterbelt Forest) ในการป้องกันพายุทราย และการพังทลายของดินในพื้นที่ภาคเหนือ
ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้เพิ่มพื้นที่ป่าถึง 30.14 ล้านเฮกตาร์ ตามข้อมูลปี 2561
"สามเหนือ" ของจีน ได้แก่ พื้นที่ตอนเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งของทะเลทราย ซึ่งรวมถึงทะเลทรายโกบี และพื้นที่แปรสภาพเป็นทะเลทรายจำนวนมาก โดยจีนได้เปิดตัว "โครงการผืนป่าแนวกันลมสามเหนือ" เมื่อปี 2521
วันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ยกย่องการทำงานในการต่อสู้กับการแปรสภาพเป็นทะเลทรายตามแนวชายแดนทางเหนือ พร้อมรับทราบถึงการกระจายและความยากต่อการจัดการของสถานการณ์โดยรวมในประเทศ
"โครงการเชิงนิเวศที่สำคัญอย่างโครงการผืนป่าแนวกันลมสามเหนือ จะเป็นไปได้ก็ด้วยภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เท่านั้น" ปธน.สีกล่าวขณะเยี่ยมชมฟาร์มป่าที่บาหยันนูร์ ซิตี้ ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางตอนเหนือของจีน
เขาย้ำถึงเป้าหมายพื้นฐานของการรวม "กำแพงความมั่นคงทางนิเวศวิทยา" ของภาคเหนือ พร้อมเน้นเป้าหมายใหม่ในการทำให้โครงการเป็น "กำแพงสีเขียวที่ไม่มีวันทลายของชายแดนทางเหนือ"
จีนเป็นผู้นำในการรณรงค์ทั่วโลกเพื่อให้โลกเป็นสีเขียว โดยมีการเจริญเติบโตของป่าและพื้นที่ป่าปลูกสูงสุด ทั้งนี้โดยจากการสำรวจในปี 2562 ที่อาศัยข้อมูลจากดาวเทียมของนาซา (NASA) และมีการเผยแพร่ในเนเจอร์ ซัสเตนอะบิลิตี (Nature Sustainability) แสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของพื้นที่สีเขียวทั่วโลก นับตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 2000 อย่างน้อย 25% เกิดขึ้นในประเทศจีน
การฟื้นฟูระบบนิเวศ
ในบ่ายวันจันทร์ ปธน.สีได้ไปเยือนทะเลสาบอูหลันซูไห่ (Ulan Suhai Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่หายากในทะเลทรายและพื้นที่กึ่งทะเลทราย และได้ตรวจการฟื้นฟูระบบนิเวศที่นั่น
ทะเลสาบซึ่งหลายคนเรียกว่า "ไตธรรมชาติ" ของแม่น้ำเหลือง มีบทบาทสำคัญในการปรับสภาพน้ำ ทำให้น้ำบริสุทธิ์ และควบคุมน้ำท่วม
แต่นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 ทะเลสาบอูหลันซูไห่มีการลดลงของน้ำเติมตามธรรมชาติ มีมลพิษจากสิ่งปฏิกูลในเมือง มีมลพิษจากน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม มีประสิทธิภาพของหน้าที่ทางนิเวศวิทยาลดลง และอื่น ๆ จนกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องเริ่มรณรงค์อนุรักษ์
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ พวกเขาได้มาถึงขั้นที่สองของความสำเร็จแล้ว โดยสามารถฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันทะเลสาบแห่งนี้มีนก 264 ชนิด และปลา 22 ชนิด
ปธน.สีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทะเลสาบ โดยเรียกร้องให้พยายามอย่างต่อเนื่องว่า "การอนุรักษ์ทะเลสาบอูหลันซูไห่มีความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงทางนิเวศวิทยาของพื้นที่ตอนเหนือของจีน"
ผู้นำจีน กล่าวว่า เขาหวังจะสร้าง "บ้านที่สวยงาม" ให้กับคนรุ่นต่อไป
นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
ปธน.สีได้ไปเยี่ยมชมศูนย์สังเกตุการณ์ในพื้นที่ชลประทานเหอเถา (Hetao Irrigation) ในบาหยันนูร์ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางข้อมูล ที่สามารถระบุถึงความพยายามในการตรวจสอบและส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำของท้องถิ่น
โครงการอายุราว 2,200 ปีอย่างพื้นที่ชลประทานเหอเถาผันน้ำจากแม่น้ำเหลือง ป้อนพื้นที่เกษตรในที่ราบเหอเถาในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีน และนับเป็นพื้นที่ชลประทานที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศ โดยมีระบบชลประทานและระบายน้ำ 7 ขั้น
ปธน.สีเรียกร้องให้พัฒนาโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผันน้ำอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ พร้อมเรียกร้องให้สังคมช่วยกัน โดยแม้จีนจะมีทรัพยากรน้ำมากมาย แต่ผู้นำจีนก็ยังคงย้ำถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างประหยัด และเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามด้าน "การเกษตรสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพ" ซึ่งเหมาะกับการทำฟาร์มในภูมิภาค