ปักกิ่ง—14 ก.ย. 2566—พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
นายนิโคลัส มาดูโร (Nicolás Maduro) ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อเขาเดินทางถึงเมืองเซินเจิ้นทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นจุดแรกในทริปเยือนจีนของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ระหว่างวันที่ 8 ถึง 14 กันยายน โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า "เราพร้อมเปิดรับการเดินทางเยือนครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในการร่วมมือและสร้างภูมิรัฐศาสตร์โลกขึ้นมาใหม่"
ส่วนที่กรุงปักกิ่งนั้น นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ให้การต้อนรับการเยือนจีนครั้งที่ 5 ของประธานาธิบดีมาดูโรเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับเวเนซุเอลาให้ประสบผลสำเร็จมากขึ้น นำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้งสองมากขึ้น และอัดฉีดพลังบวก เพื่อมอบสันติภาพและความก้าวหน้าให้กับโลกใบนี้
ผู้นำทั้งสองประเทศได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์จีน-เวเนซุเอลา ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ ก่อนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศจะครบ 50 ปีในปีหน้า
มิตรและหุ้นส่วนผู้มีความปรารถนาดี
ในระหว่างการพบปะนั้น ปธน.สีเน้นย้ำว่าจีนและเวเนซุเอลาเป็นมิตรที่ดีและไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนที่ช่วยให้ทั้งสองประเทศเติบโตก้าวหน้าไปด้วยกันได้
ปธน.สีเปิดเผยกับปธน.มาดูโรว่า จีนมองความสัมพันธ์กับเวเนซุเอลาจากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว และจะสนับสนุนทางการเวเนซุเอลาเหมือนเช่นเคย ในการปกป้องอธิปไตยของชาติและสกัดการแทรกแซงจากภายนอก
จีนและเวเนซุเอลาได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 โดยความร่วมมือในระดับทวิภาคีนี้ดำเนินการไปอย่างราบรื่นในด้านต่าง ๆ เช่น พลังงาน การเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีขั้นสูง
จีนเป็นคู่ค้าหลักของเวเนซุเอลา โดยข้อมูลจากศุลกากรเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.92 พันล้านดอลลาร์
ด้านเวเนซุเอลาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการที่จีนเป็นผู้นำอย่างสถานีวิจัยดวงจันทร์นานาชาติ (ILRS) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยประธานาธิบดีสียังได้แสดงความยินดีกับเวเนซุเอลา ที่กลายเป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกาที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย
หลังจากที่หารือกันแล้ว ผู้นำทั้งสองก็ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือระดับทวิภาคีหลายฉบับ ครอบคลุมทั้งในด้านการร่วมสร้าง BRI ไปจนถึงเศรษฐกิจและการค้า การศึกษา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สุขภาพ การบินและอวกาศ และการบินพลเรือน
สร้างแบบอย่างของความร่วมมือแบบใต้-ใต้
ปธน.มาดูโรได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเหตุผลที่เลือกเซินเจิ้นเป็นสถานที่แรกในการเดินทางเยือนจีนว่า เวเนซุเอลาหวังนำประสบการณ์การพัฒนาของเซินเจิ้นมาต่อยอด โดยเซินเจิ้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรก ๆ ของจีน นับเป็นด่านหน้าของการปฏิรูปและนโยบายการเปิดกว้างของจีน
ในระหว่างการพบปะกับปธน.มาดูโรนั้น ปธน.สีได้พูดถึงการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ปธน.สีเปิดเผยว่า จีนสนับสนุนเวเนซุเอลาในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และจะแบ่งปันประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเวเนซุเอลาพัฒนาประเทศ
ปธน.สีเน้นย้ำว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเวเนซุเอลา เพื่อสนับสนุนแต่ละฝ่ายในการสำรวจเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับประเทศของตน พร้อมเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างพรรคและในด้านการปกครองประเทศ
ส่วนปธน.มาดูโรก็ได้ยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างเวเนซุเอลากับจีน ว่าเป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในโลกใต้
ชาวเวเนซุเอลาต่างแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อจีน ที่ได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลืออันล้ำค่าในช่วงเวลาที่เวเนซุเอลากำลังเผชิญกับความยากลำบาก เมื่อถูกคว่ำบาตรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเดือดร้อนเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19
จีนในฐานะกลุ่มประเทศโลกใต้ก็มีส่วนสนับสนุนความร่วมมือใต้-ใต้อย่างจริงจัง โดยจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาประเทศอื่น ๆ พัฒนาก้าวหน้าไปด้วยกัน
ทั้งนี้ แผนริเริ่มการพัฒนาโลก (GDI) ซึ่งปธน.สี ได้เสนอเอาไว้ มีโครงการความร่วมมือกว่า 200 โครงการแล้ว นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจีนยังได้ประกาศจัดตั้งกองทุนพิเศษในวงเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามแผนริเริ่มการพัฒนาโลกในการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) เมื่อเดือนสิงหาคมด้วย
นอกจากนี้ จีนยังได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาโลกและความร่วมมือใต้-ใต้ (Global Development and South-South Cooperation Fund) ในวงเงินถึง 4 พันล้านดอลลาร์ด้วยเช่นกัน