omniture

ผู้นำด้านมนุษยธรรม ธุรกิจ และการเมืองกว่า 150 คนทั่วโลกเรียกร้องอิสรภาพ "นักโทษอาร์เมเนีย"

Free Armenian Prisoners
2023-12-13 19:46 57

เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้นำอุตสาหกรรม อดีตประมุขแห่งรัฐ และเหล่าผู้นำภาคประชาสังคม ผนึกกำลังกันเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนีย ซึ่งถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมายในอาเซอร์ไบจาน

การไม่ปล่อยตัวนักโทษคนสำคัญบ่งชี้ถึงการล้างแค้นทางการเมืองของรัฐบาลอาเซอร์ไบจาน ข้อเรียกร้องให้คว่ำบาตรระบอบแอลีเยฟ (Aliyev) มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสภาคองเกรสแห่งสหรัฐและรัฐสภายุโรป

จดหมายเรียกร้องลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีแมรี โรบินสัน (Mary Robinson) และเอร์เนสโต เซดีโย (Ernesto Zedillo), ผู้ชนะรางวัลโนเบล เลย์มาห์ โบวี (Leymah Gbowee) และโอสการ์ อาเรียส (Oscar Arias), เอลิชา วีเซล (Elisha Wiesel) ประธานกรรมการมูลนิธิเอลี วีเซล เพื่อมนุษยชาติ (Elie Wiesel Foundation for Humanity), ผู้ประกอบการริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson), มาร์ก เบนนิออฟ (Marc Benioff), ผู้จัดพิมพ์อาเรียนนา ฮัฟฟิงตัน (Ariana Huffington) และบุคคลระดับโลกอื่น ๆ ร่วมเน้นย้ำข้อกังวลเกี่ยวกับการควบคุมตัวเหล่าผู้นำจากภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค (Nagorno-Karabakh) รวมถึงรูเบน วาร์ดันยาน (Ruben Vardanyan) นักมนุษยธรรมชาวอาร์เมเนีย

บรัสเซลส์, 13 ธ.ค. 2566 /PRNewswire/ -- เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้นำทางธุรกิจ อดีตประมุขแห่งรัฐ และนักมนุษยธรรม เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลระดับโลกอีกกว่า 100 คนที่ได้ลงนามในจดหมายเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว "นักโทษอาร์เมเนีย" ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรวมถึงนักโทษทางการเมืองชาวอาร์เมเนีย 8 คน ซึ่งเป็นอดีตผู้นำของรัฐบาลนากอร์โน-คาราบัคที่ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลังจากอาเซอร์ไบจานรุกรานและเข้ายึดครองภูมิภาคดังกล่าวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีเชลยศึกอีกหลายสิบรายที่ถูกจับกุมระหว่างที่เกิดความขัดแย้งที่ขณะนี้ยังคงถูกคุมขังอยู่

คำร้องดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงรูเบน วาร์ดันยาน นักธุรกิจและนักมนุษยธรรมชาวอาร์เมเนียคนสำคัญ การจับกุมตัวพวกเขาเหล่านี้เกิดขึ้นในแผนกวาดล้างชาติพันธุ์โดยกองกำลังอาเซอร์ไบจาน  แม้ว่าการปล่อยตัวเชลยศึกชาวอาร์เมเนีย 32 คน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมจะเป็นก้าวแรกที่น่ายินดี แต่นักโทษคนอื่น ๆ ที่เหลือต้องได้รับการปล่อยตัวด้วยเช่นกัน การที่รัฐบาลอาเซอร์ไบจานไม่ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่อีก 8 คนนั้น สร้างความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับแรงจูงใจภายใต้ระบอบแอลีเยฟในการกักขังพวกเขาต่อไป

"การละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งเกิดขึ้นภายหลังความขัดแย้งในนากอร์โน-คาราบัคจำเป็นต้องรับความสนใจและการดำเนินการอย่างเร่งด่วน" นูบา อะเฟยัน (Noubar Afeyan) ผู้ร่วมลงนามอีกหนึ่งคนและผู้ร่วมก่อตั้งโครงการริเริ่มเพื่อมนุษยธรรมออโรรา (Aurora Humanitarian Initiative) กล่าว "ประธานาธิบดีแอลีเยฟเลือกที่จะล้างแค้นทางการเมืองมากกว่าความยุติธรรม เราเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีและสิทธิโดยชอบธรรมของปัจเจกชนทุกคน และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกับเราในการประณามความอยุติธรรมนี้"

ทั้งนี้ อะเฟยันร่วมงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจระดับโลกและภูมิภาค และโครงการด้านมนุษยธรรมกับวาร์ดันยานมาเป็นเวลานาน โดยวาร์ดันยานได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางการเมืองและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นวงกว้างในภูมิภาค การที่เขาถูกควบคุมตัวอย่างไม่ยุติธรรมนั้นจุดประกายให้ผู้ที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในโลกบางส่วนออกมาส่งเสียงสนับสนุนจุดยืนของเขาและของคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่ยุติธรรม

"เราขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีแอลีเยฟปฏิบัติตามพันธกรณีของตนที่มีต่อกฎเกณฑ์และกฎหมายระหว่างประเทศ โดยรับประกันว่าผู้ที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมจะสามารถกลับไปพบครอบครัวได้อย่างปลอดภัย" พอล โพลแมน (Paul Polman) รองประธานข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact - UNGC) และอดีตซีอีโอของยูนิลีเวอร์ (Unilever) กล่าว "ทุก ๆ คนในนากอร์โน-คาราบัคมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตที่สงบสุขและปลอดภัย รวมถึงอิสระในการเดินทางโดยไร้ซึ่งอุปสรรคหรือปีศาจในรูปแบบของการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรม เมื่อพิจารณาจากการที่อาเซอร์ไบจานเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 29 (COP29) ในปี 2567 แล้ว ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสหประชาชาติจะเห็นด้วยก็ต่อเมื่อรัฐบาลอาเซอร์ไบจานต้องปล่อยตัวนักโทษเหล่านี้ทุกคน"

โพลแมนเป็นหนึ่งในผู้ลงนามในจดหมาย ร่วมกับอดีตประมุขแห่งรัฐ เช่น เอร์เนสโต เซดีโย อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก, แมรี โรบินสัน อดีตประธานาธิบดีไอร์แลนด์, โอสการ์ อาเรียส อดีตประธานาธิบดีคอสตาริกาและผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และเอลิชา วีเซล ประธานกรรมการมูลนิธิเอลี วีเซล เพื่อมนุษยชาติ และบุตรชายของเอลี วีเซล ผู้ล่วงลับ อดีตประธานร่วมของรางวัลออโรราเพื่อการตื่นรู้ของมนุษยชาติ (Aurora Prize for Awakening Humanity) ส่วนผู้ลงนามที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ มาจากหลากหลายภาคส่วน เช่น ริชาร์ด แบรนสัน ซีอีโอของเวอร์จิ้น (Virgin), มาร์ก เบนนิออฟ ซีอีโอของเซลส์ฟอร์ส (Salesforce), อาเรียนนา ฮัฟฟิงตัน ผู้ก่อตั้งไธรฟ์ (Thrive) และเดอะ ฮัฟฟิงตัน โพสต์ (The Huffington Post) และเซิร์จ ทองเคียน (Serj Tankian) นักดนตรีชื่อดังและนักร้องนำวงซิสเตมออฟอะดาวน์ (System of a Down)

"การคุมขังรูเบน วาร์ดันยาน และคนอื่น ๆ อีกมากมายในกรุงบากูอย่างไม่เป็นธรรมถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขา" แมรี โรบินสัน อดีตข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN กล่าว "เพื่อให้รัฐบาลอาเซอร์ไบจานได้รับความเคารพในประชาคมโลก รัฐบาลจำเป็นต้องเคารพหลักนิติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการกวาดล้างชาติพันธุ์ในนากอร์โน-คาราบัค รัฐบาลต้องปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังเหล่านี้ทันที"

คำวิงวอนที่เป็นเอกภาพของพวกเขาทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่า ผู้นำทางการเมืองระดับโลกกำลังติดตามความเคลื่อนไหวในอาเซอร์ไบจานอย่างใกล้ชิดและเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง ตามที่ระบุในจดหมายที่ออกในวันที่ 12 ธันวาคม การคุมขังนักโทษชาวอาร์เมเนียถือเป็นการละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างชัดเจน รวมถึงละเมิดอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สาม

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกของรัฐสภายุโรปและคณะมนตรียุโรปได้พยายามบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจาน และปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดโดยมิชอบด้วยกฎหมายที่เกิดจากความขัดแย้งในนากอร์โน-คาราบัคในเดือนตุลาคม รัฐสภายุโรปได้ผ่านมติเรียกร้องให้อาเซอร์ไบจานปล่อยตัวและดำเนินการนิรโทษกรรมต่อชาวนากอร์โน-คาราบัคทั้งหมดที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่จากภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนี้ รัฐสภายุโรปยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรบุคคลในรัฐบาลอาเซอร์ไบจานที่รับผิดชอบต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในนากอร์โน-คาราบัคหลายครั้ง รวมถึงยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการละเมิดที่กระทำโดยกองกำลังอาเซอร์ไบจาน ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม

ในทำนองเดียวกัน อดัม ชิฟ (Adam Schiff) สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครต ผู้แทนรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เสนอมติเรียกร้องให้อาเซอร์ไบจานปล่อยตัวเชลยศึก (POW) และพลเรือนทั้งหมดที่ปัจจุบันถูกควบคุมตัวในช่วงเหตุโจมตีนากอร์โน-คาราบัค (หรือที่เรียกว่าอาร์ทซัค) ซึ่งดำเนินมานานหลายปี มตินี้ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนคว่ำบาตรภายใต้กฎหมายแมกนิตสกีว่าด้วยความรับผิดชอบต่อสิทธิมนุษยชนสากล (Global Magnitsky Human Rights Accountability Act) ต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาเซอร์ไบจานที่รับผิดชอบต่อการคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย การทรมาน และการวิสามัญฆาตกรรมเชลยศึกชาวอาร์เมเนีย, พลเรือนที่ถูกคุมขัง, ตัวประกัน, นักโทษทางการเมือง และบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัว

ดูรายชื่อผู้ลงนามทั้งหมดและสำเนาของจดหมายดังกล่าวได้ที่ www.FreeArmenianPrisoners.com

หากมีคำถามเกี่ยวกับจดหมายหรือต้องการทราบวิธีสนับสนุนความเคลื่อนไหวครั้งนี้หรือขอนัดสัมภาษณ์ สามารถติดต่อได้ที่ contact@freearmenianprisoners.com

ติดต่อ:

นีอา แจ็กสัน (Nia Jackson)
เอเดลแมน โกลบอล แอดไวส์เซอรี่ (Edelman Global Advisory)
+1 202 983 0478
nia.jackson@edelmanega.com

อนาหิต อโกเปียน (Anahit Akopian)
เอช/แอดไวส์เซอร์ส (H/Advisors)
+33 7 87 38 79 80
anahit.akopian@havas.com

ปลดปล่อยนักโทษอาร์เมเนีย (Free Armenian Prisoners)
contact@freearmenianprisoners.com
www.FreeArmenianPrisoners.com
#FreeArmenianPrisoners @RubenVardanyan

Source: Free Armenian Prisoners
Keywords: Advocacy Group Opinion Public Interest