ปักกิ่ง--6 มิถุนายน 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เด็ก ๆ คือสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งในวัฒนธรรมจีน และถูกมองว่าเป็นอนาคตของครอบครัว ยิ่งไปกว่านั้น การเติบโตของเด็ก ๆ ยังมีความสำคัญต่ออนาคตของจีนที่กำลังมุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูประเทศ
ในวันเด็กนานาชาติซึ่งตรงกับวันที่ 1 มิถุนายน จีนได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการส่งเสริมการพัฒนาเด็กอย่างเข้มแข็งและครอบคลุมรอบด้าน พร้อมอวยพรให้กับเด็ก ๆ ทั่วประเทศ
เมื่อสองเดือนก่อน นายสี จิ้นผิง ได้เปรียบเทียบเด็กว่าเป็นเหมือน "ต้นกล้า" ในระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมการปลูกต้นไม้ในกรุงปักกิ่ง พร้อมกับส่งเสริมให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ
"พวกเธอทุกคนเป็นเหมือนต้นกล้า" เขากล่าว "ในที่สุดก็จะเติบโตเป็นต้นไม้สูงในอนาคต และรวมกันเป็นป่าใหญ่ของประเทศจีน เป็นป่าแห่งทรัพยากรบุคคลมากความสามารถ"
นายสี จิ้นผิง ตอกย้ำเป้าหมายของจีนในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์แบบจีนภายในกลางศตวรรษ โดยเขากล่าวว่า "พวกเธอมีเวลาอีก 30 ปี ตอนนี้พวกเธออายุ 10 ขวบ เมื่อถึงตอนนั้นก็อายุ 40 ปี และจะกลายเป็นเสาหลักของประเทศ"
สี จิ้นผิง สนับสนุนให้เด็ก ๆ ไล่ตามความฝัน
ผู้นำจีนรักเด็กและสนับสนุนให้เด็ก ๆ ไล่ตามความฝันมาโดยตลอด
"ชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับเด็ก ๆ คือความปรารถนาสูงสุดของเรา" นายสี จิ้นผิง กล่าวขณะเข้าร่วมงานก่อนวันเด็กนานาชาติในปี 2556
ในปี 2557 เขาได้ร่วมฉลองวันเด็กนานาชาติกับนักเรียนระดับประถมศึกษา เขากล่าวว่าเด็ก ๆ คืออนาคตของประเทศและเป็นความหวังของชาติจีน
"วีรบุรุษได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย คลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่คลื่นลูกเก่า ฉันหวังว่าพวกเธอจะใช้ชีวิตด้วยความฝันและแรงบันดาลใจ" เขากล่าวกับเด็กนักเรียน
ในเดือนพฤษภาคม 2556 นายสี จิ้นผิง ได้ไปเยือนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอลู่ซาน เมืองหย่าอัน มณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน หลายสัปดาห์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ในพื้นที่ดังกล่าว เขาได้พูดคุยกับนักเรียนในห้องเรียนชั่วคราว และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อไล่ตามความฝัน
หลังจากนั้น 9 ปี อดีตนักเรียนที่อยู่ในห้องเรียนนั้นได้รำลึกถึงคำพูดของนายสี จิ้นผิง ในวันนั้น
"ฉันนั่งแถวหน้าตอนที่คุณปู่สียืนอยู่หน้าชั้นเรียน เขาถามด้วยรอยยิ้มว่าความฝันของเราคืออะไร" หลัว อวิ๋นฟาง กล่าว "ฉันจำได้ว่าคำตอบของฉันคือทำงานเป็นบรรณาธิการเพราะฉันชอบเขียน คุณปู่สีดูพอใจมาก เขาชื่นชมจินตนาการของเรา"
ปัจจุบันเธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเฉิงตู และกำลังทำความฝันให้กลายเป็นความจริง
"ฉันเข้าร่วมศูนย์สื่อของมหาวิทยาลัยและเขียนบทความมากมาย ฉันค่อย ๆ ทำตามความฝันทีละนิด" เธอกล่าว
จีนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก
นับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 รัฐบาลทุกระดับได้ให้การดูแลเด็กและเยาวชนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่การรับประกันการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน การส่งครูไปยังหมู่บ้านบนภูเขาที่ยากจน ไปจนถึงการลงทุนเพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ชนบท
รายงานสมุดปกขาวของสำนักสารสนเทศของคณะมุขมนตรีซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ระบุว่า ประเทศจีนได้บังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับมากกว่า 100 ฉบับ เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้หญิงและเด็กอย่างครอบคลุม
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการร่างกฎหมายและข้อบังคับฉบับใหม่หรือฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมากมายเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้เยาว์ โดยความเคลื่อนไหวที่สำคัญสองครั้งประกอบด้วยการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองผู้เยาว์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 และกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการให้ความรู้แก่ครอบครัว ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565
ขณะเดียวกัน จีนกำลังเพิ่มความพยายามในการลดภาระการบ้านและการกวดวิชาที่มากเกินไปของนักเรียน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ดีและรอบด้าน
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จีนได้ประกาศนโยบาย "Double Reduction" เพื่อแบ่งเบาภาระทางวิชาการที่มากเกินไปของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมถึงการกวดวิชาที่หนักหน่วงเกินไป
กระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า หลังจากที่ประกาศใช้นโยบายใหม่ สถาบันกวดวิชาออฟไลน์ที่สอนวิชาตามหลักสูตรลดลงถึง 83.8% ทั่วประเทศ ส่วนสถาบันกวดวิชาออนไลน์ลดลงถึง 84.1%